วันพุธที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

‘น้ำทับทิม’ ป้องกันสมองเสื่อม

บทความดีๆ เราขอนำเสนอเมนูน้ำผลไม้เพื่อสุขภาพ มาฝากครับ น้ำผลไม้ที่ว่าก็คือ น้ำทับทิม ครับ


ทับทิม เป็นผลไม้ที่มีสรรพคุณป้องกันอาการหลง ๆ ลืม ๆ ทั้งยังช่วยบำรุงผิวพรรณ ในส่วนของเมล็ดยังอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระตัวการก่อมะเร็ง

น้ำทับทิม

มุมสุขภาพ-กินดี สรรหาเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพมาปิดท้ายให้เข้าธีมของสัปดาห์ที่ว่ากันถึง อาการสมองเสื่อม ซึ่งสามารถป้องกันด้วย ทับทิม ผลไม้มากคุณค่า สีสันสวยงาม โดยคุณพล ตัณฑเสถียร ฟู้ดสไตลิสต์คนดัง สร้างสรรค์เป็นเครื่องดื่มแก้วเก๋ ชื่อ Red Shooter

นอกจากทับทิมแล้ว เครื่องดื่มแก้วนี้ยังต้องการส่วนผสมเพื่อเพิ่มคุณค่าเข้าไปอีก มีทั้งแตงโม มะนาว ส้ม และสับปะรด ที่เปี่ยมไปด้วยวิตามินซี ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ และทำให้แผลหายเร็วอีกด้วย

สรุปส่วนผสมที่ต้องเตรียม คือ....

ทับทิม
แตงโม
มะนาว
ส้ม
สับปะรด
ขั้นตอนในการทำ เริ่มจากการแกะเมล็ดทับทิมออกจากผล แล้วใส่รวมกันในผ้าขาวบาง บีบคั้นเอาแต่น้ำ ส่วนผลไม้ชนิดอื่นๆ นำไปคั้นเอาแต่น้ำเช่นกัน เมื่อได้ส่วนผสมทั้งหมดแล้วให้นำไปผสมรวมกัน จากนั้นนำไปเขย่ารวมกับน้ำแข็งก้อนใหญ่เพียงชั่วครู่ ก็จะได้เครื่องดื่มรสเปรี้ยวอมหวานที่เย็นจับใจ ดื่มได้ทันที.

ที่มาข้อมูล : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

"สุขภาพดีๆ หาซื้อไม่ได้ ถ้าอยากได้ต้องทำเอง"

ด้วยความปรารถนาดี Storyhealthy.com

Read More>>

วันศุกร์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2553

9 โรคที่มากับน้ำ

สวัสดีครับ ช่วงนี้เมีข่าวเกี่ยวกับน้ำท่วมที่โน้นที่นี้อยู่เป็นประจำ อาจจะด้วยว่าช่วงนี้ยังอยู่ในช่วงหน้าฝนอยู่ ยังงัยก็ต้องอดทน และ ก็ดูแลสุขภาพของตัวเราเองให้ดี จนกว่าจะผ่านหน้าฝนไป

วันนี้เราจึงมีบทความดีๆ เกี่ยวกับการดูแลร่างกายของเราให้พร้อม รับมือกับโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ที่มากับน้ำมานำเสนอ เรามาดูกันว่า มีโรคอะไรบ้างที่เราต้องควรระวัง และเตรียมพร้อมรับมือก่อนที่จะเจ็บป่วย กับโรคต่างๆ เหล่านี้อย่างไรบ้าง


1. โรคน้ำกัดเท้า
• เกิดจากการย่ำหรือแช่ในน้ำ ที่มีเชื้อโรค
• เป็นโรคที่พบมากที่สุดจากเหตุการณ์น้ำท่วม
• อาการ
- ระยะแรก คันตามซอกนิ้วเท้า ผิวหนังลอกเป็นขุย มีผื่น
- ต่อมา ผิวหนังที่เท้าพุพอง
- เท้าเปื่อย เป็นหนอง
• การป้องกัน
- หลีกเลี่ยงการย่ำน้ำ หากจำเป็นควรใส่รองเท้าบูทกันน้ำ และเมื่อกลับเข้าบ้าน ควรใช้น้ำสบู่ล้างเท้าให้สะอาด เช็ดให้แห้ง
- สวมเสื้อผ้าสะอาด ไม่เปียกชื้น

2. ไข้หวัด
• พบช่วงอากาศเปลี่ยนแปลง ติดต่อได้จากการสัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วย แพร่กระจายจากน้ำมูก น้ำลาย เสมหะ หรือของใช้ของผู้ป่วย
• อาการ
- ครั่นเนื้อครั่นตัว ปวดหัว ปวดเมื่อยตามร่างกาย อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร
- มีไข้เล็กน้อย
- คัดจมูก มีน้ำมูกใส ไอ จาม
• หายได้เองภายใน 1 สัปดาห์

3. ไข้หวัดใหญ่
• เชื้อแพร่กระจายอยู่ในลมหายใจ เสมหะ น้ำลาย น้ำมูก และสิ่งของใช้ของผู้ป่วย
• อาการ
- มีไข้สูง
- ปวดเมื่อยตามตัวมาก
- ไอ จาม เจ็บคอ มีน้ำมูก คัดจมูก อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร
• การปฏิบัติตัว
- ผู้ป่วยควรใช้ผ้าปิดปากและจมูกเวลาไอ จาม หรือสวมหน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค
- ไม่ควรสั่งน้ำมูกแรงๆ เพราะอาจทำให้หูอักเสบได้
- กินอาหารที่ย่อยง่าย กินผัก ผลไม้ และดื่มน้ำอุ่นมากๆ
- อาบน้ำหรือเช็ดตัวด้วยน้ำอุ่น แล้วเช็ดตัวให้แห้งทันที

4. โรคปวดบวม
• หากผู้ประสบภัยน้ำท่วมสำลักน้ำ หรือสิ่งสกปรกต่างๆ เข้าไปในปอด ก็มีโอกาสจะเป็นโรคปอดบวมได้ หรือการคลุกคลีกับผู้ป่วย เมื่อไอ จาม หรือหายใจรดกัน
• อาการ
- มีไข้สูง ไอมาก หายใจหอบและเร็ว
- บางครั้งหายใจหอบและเร็วจนเห็นชายโครงบุ๋ม เล็บมือ เล็บเท้า และริมฝีปาก ซีดหรือคล้ำ กระสับส่าย หรือซึม
• เมื่อสงสัยว่าเป็นโรคปอดบวม ต้องรีบไปพบแพทย์ทันที และรับการรักษาในโรงพยาบาล

5. โรคตาแดง
• ติดต่อกันง่าย โดยเฉพาะเด็กเล็ก ทั้งจากการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย และจากใช้สิ่งของร่วมกับผู้ป่วย เช่น ผ้าเช็ดหน้า หรือจากแมลงวัน แมลงวี่ตอมตา
• อาการ
- หลังจากรับเชื้อ 1-2 วัน จะเริ่มเคืองตา ปวดตา น้ำตาไหล กลัวแสง มีขี้ตามาก หนังตาบวม ตาขาวอักเสบแดง
• ผู้ป่วยมักหายได้เองภายใน 1-2 สัปดาห์ แต่ถ้าดูแลรักษาไม่ถูกวิธี อาจเกิดอาการแทรกซ้อน
• การปฏิบัติตัว
- เมื่อมีฝุ่น หรือน้ำสกปรกเข้าตา ควรรีบล้างตาด้วยน้ำสะอาดทันที ไม่ควรขยี้ตา อย่าให้แมลงตอมตา และไม่ควรใช้สายตามากนัก
- หมั่นล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่มากๆ
- เมื่อมีอาการ ควรพบแพทย์ เพื่อรับยาหยอดหรือป้ายตา

6. โรคติดเชื้อระบบทางเดินอาหาร
• ติดต่อจากเชื้อโรคที่เข้าสู่ร่างกาย ทางอาหาร น้ำ ที่ปนเปื้อนเชื้อโรค เช่น อาหารที่มีแมลงวันตอม อาหารทิ้งค้างคืนไม่ได้แช่เย็นและไม่ได้อุ่นให้ร้อน
• ได้แก่
โรคอุจจาระร่วง
- ถ่ายอุจจาระเหลว หรือเป็นน้ำ หรือมีมูกเลือด
- อาจอาเจียนร่วมด้วย
อหิวาตกโรค
- ถ่ายอุจจาระเหลวคล้ายน้ำซาวข้าว มีกลิ่นคาว
- อาเจียน อ่อนเพลีย
อาหารเป็นพิษ
- ปวดท้องร่วมกับถ่ายอุจจาระเหลว
- คลื่นไส้ อาเจียน
- อาจจะปวดหัว ปวดเมื่อยตามเนื้อตัว
โรคบิด
- ถ่ายอุจจาระบ่อย มีมูกหรือมูกปนเลือด
- มีไข้ ปวดท้อง และมีปวดเบ่งร่วมด้วย
ไข้รากสาดน้อย หรือไข้ทัยฟอยด์
- มีไข้ ปวดหัว ปวดเมื่อยตามตัว
- เบื่ออาหาร อาจท้องผูก หรือบางรายอาจท้องเสีย
• การป้องกัน
- ล้างมือให้สะอาดด้วยน้ำสะอาดและสบู่ทุกครั้งก่อนเตรียมและปรุงอาหาร ก่อนกินอาหาร และหลังการขับถ่าย
- ดื่มน้ำสะอาด เลือกกินอาหารที่สะอาด ปรุงสุกใหม่ และเก็บอาหารไว้ในภาชนะที่มิดชิด
- กำจัดสิ่งปฏิกูล ขยะ
• การรักษา
- ให้ผู้ป่วยดื่มน้ำหรืออาหารเหลวมากๆ ให้ดื่มสารละลายน้ำตาลเกลือแร่ผสมน้ำตามสัดส่วนที่ระบุข้างซอง (หรือทำเอง คือ น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ เกลือป่นครึ่งช้อนชา ละลายในน้ำต้มสุกที่เย็นแล้ว 1 ขวดกลม)
- หากมีอาการมากขึ้น เช่น อาเจียนมาก ไข้สูง ชัก หรือซึมมาก ให้ไปพบแพทย์
- ไม่ควรกินยาให้หยุดถ่าย เพราะจะทำให้เชื้อโรคค้างอยู่ในร่างกาย ซึ่งจะเป็นอันตรายมาก

7. โรคฉี่หนู
• โรคฉี่หนู หรือ เลปโตสไปโรสิส ติดต่อจากหนูสู่คน เชื้อมากับปัสสาวะสัตว์ปนเปื้อนอยู่ในน้ำท่วมขัง พื้น ดินที่ชื้นแฉะได้นาน เมื่อผิวหนังแช่น้ำ เชื้อจะเข้าร่างกายทางบาดแผล รอยขีดข่วน รอยถลอก หรือไช้เข้าเยื่อบุตา จมูก ปาก หรือผิวหนังที่แช่น้ำนาน หรือติดเชื้อจากอาหารที่หนูฉี่รด
• อาการ
- หลังรับเชื้อ 4-10 วัน โดยจะมีไข้สูงทันทีทันใด ปวดหัว และปวดกล้ามเนื้อมาก โดยเฉพาะน่อง โคนขา หรือหลัง
- บางคนตาแดง อาจเจ็บคอ เบื่ออาหาร หรือท้องเดิน
• การป้องกัน
- สวมรองเท้าบูทยางกันน้ำ หากต้องลุยน้ำ ย่ำโคลน
- หลีกเลี่ยงการแช่น้ำ ย่ำโคลนนานๆ เมื่อขึ้นจากน้ำแล้วต้องรีบอาบชำระร่างกายให้สะอาดโดยเร็วที่สุด
- รับประทานอาหารที่ปรุงสุก เก็บอาหารในภาชนะที่มิดชิด
- ดูแลที่พักให้สะอาด
• การรักษา
- รีบไปพบแพทย์ ถ้าไม่รีบรักษา บางรายอาจมีจุดเลือดออกตามผิวหนัง ไอมีเลือดปน หรือตัวเหลือง ตาเหลือง ปัสสาวะน้อย ซึม สับสน กล้ามเนื้อหัวใจอาจอักเสบและเสียชีวิตได้

8. ไข้เลือดออก
• มียุงลายเป็นพาหะ
• อาการ
- ไข้สูงตลอดวัน ประมาณ 2-7 วัน
- ปวดหัว ปวดเมื่อยตามตัว มักคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง เบื่ออาหาร ส่วนใหญ่ หน้าแดง อาจมีจุดเล็กๆตามลำตัว แขน ขา
- ต่อมา ไข้จะเริ่มลง ในระยะนี้ต้องระวังเป็นพิเศษ เพราะอาจเกิดอาการรุนแรงได้ ผู้ป่วยจะกระสับกระส่าย มือเท้าเย็น หรือเลือดออกผิดปกติ อาจมีภาวะช็อค และเสียชีวิตได้
• การป้องกัน
- ระวังอย่าให้ยุงกัด กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุง
• การรักษา
- รีบพาไปพบแพทย์
- ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดตัว ห้ามใช้ยาแอสไพริน ใช้ยาลดไข้พาราเซตามอล

9. โรคหัด
• ติดต่อกันได้ง่าย ทั้งการไอ จาม หรือพูดกันในระยะใกล้ชิด พบในช่วงฤดูฝน
• อาการ
- หลังรับเชื้อ 8-12 วัน จะเริ่มมีไข้ น้ำมูกไหล ไอ ตาแดง ตาแฉะ พบจุดขาวเล็กๆขอบแดงในกระพุ้งแก้ม
- จากนั้น 1-2 วันแรก ไข้จะขึ้นสูง สูงเต็มที่ในวันที่ 4 เมื่อมีผื่นขึ้น โดยผื่นจะนูนแดงติดกันเป็นปื้นๆ ขึ้นที่ใบหน้าชิดขอบผม แล้วแพร่กระจายไปตามตัว แขน และขา ต่อมาไข้จะเริ่มลดลง ส่วนผื่นจะสีเข้มขึ้นแล้วค่อยจางในเวลา 2 สัปดาห์
- ในเด็กที่มีภาวะทุพโภชนาการ หรือในเด็กเล็ก อาจมีโรคแทรกซ้อน เช่น หูอักเสบ หลอดลมอักเสบ ปวด อักเสบ สมองอักเสบ อาจเสียชีวิตได้
• การป้องกัน
- ฉีดวัคซีนป้องกัน หลีกเลี่ยงการสัมผัสผู้ป่วย รักษาสุขอนามัย
• การดูแลรักษา
- รักษาตามอาการ ถ้าไข้สูงมากควรให้ยาลดไข้เป็นครั้งคราว ร่วมกับเช็ดตัว ไม่จำเป็นต้องให้ยาปฏิชีวนะ

ที่มา : สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)

Read More>>

วันอังคารที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2553

8 วิธี เพิ่มอายุยืนยาวขึ้น 8 ปี

วันนี้เรามีบทความดีๆ เกี่ยวกับการเพิ่มอายุของเราให้ยืนยาวขึ้น 8 ปี ผมเชื่อว่าทุกคนส่วนใหญ่ก็อยากที่จะมีชีวิตยืนยาว จะได้อยู่กับคนที่เรารัก และรักเรา ได้อยู่กับครอบครัวของเรานานๆ แล้วเราจะทำอย่างไรหละ ที่จะสามารถเพิ่มอายุของเราให้ยืนยาวเพิ่มขึ้น มาครับผมมีวิธีมาบอก

วิธีที่ 1 อายุยืนยาวขึ้น 1 ปี ด้วยการกินดาร์กช็อกโกแลต

การวิจัยจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด สหรัฐอเมริกาบอกว่าถ้าเรากินดาร์กช็อกโกแลตบ่อยๆ หรืออย่างน้อยเดือนละ 3 ครั้งอาจจะช่วยให้ชีวิตยืนยาวขึ้นได้อีก 1 ปีเลย เพราะว่าในดาร์กช็อกโกแลตมีสารฟลาโวนอยด์ที่ช่วยทำให้เลือดไม่ข้นหนืดจนเกินไป เลือดเลยไหลได้สะดวก ไม่ไปติดหรือกระแทกหลอดเลือดมาก จึงไม่เกิดโรคเกี่ยวกับหลอดเลือดเส้นเลือดก็ไม่อุดตัน

วิธีที่ 2 อายุยืนยาวขึ้น 2 ปี ด้วยเพศสัมพันธ์ที่ดี

มีเพศสัมพันธ์บ่อยๆ แล้วดีครับ ช่วยเพิ่มอายุได้ถึง 2 ปีเลยทีเดียว &nb sp;มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย บอกว่าเป็นเพราะมันจะมีสารที่หลั่งออกมาหลังจากที่เราถึงจุดสุดยอดที่ทำให้คลายเครียดได้ดีมาก และจะทำให้เรารู้สึกสบายตัวร่างกายและหัวใจเราก็ดีขึ้น ฮอร์โมนคอร์ติโซนก็จะหลั่งออกมาน้อยผมเคยอ่านงานวิจัยอีกอันที่เขาศึกษากับคนออสเตรเลีย 2,338 คน บอกว่าการที่ผู้ชายมีเพศสัมพันธ์หรือช่วยตัวเองสัปดาห์ละ 10 ครั้ง สามารถลดอัตราการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมากได้ถึง 33 เปอร์เซ็นต์

วิธีที่ 3 อายุยืนยาวขึ้น 3 ปี ด้วยการกินถั่ว

อย่างน้อยสัปดาห์ละ 5 วัน มหาวิทยาลัยโลม่าลินดาที่แคลิฟอร์เนีย วิจัยพบว่าในถั่วจะมีไขมันโอเมก้า3 สารต้านอนุมูลอิสระ ใยอาหารเยอะไขมันอิ่มตัวน้อย แคลอรีน้อยทำให้ร่างกายแข็งแรง โดยเฉพาะกับหัวใจ แต่ต้องเลือกแบบไม่มีเกลือนะครับ

วิธีที่ 4 อายุยืนยาวขึ้น 4 ปี ด้วยการดื่มไวน์

นักวิทยาศาสตร์ชาวดัชช์ ให้ดื่มไวน์วันละครึ่งแก้วจะทำให้ชีวิตเรายืนยาวได้ถึง 4 ปี เพราะในไวน์จะมีสารโพลิฟิโนลิคคอมพาวน์ส (polyphenolic compounds)ซึ่งสารนี้จะทำให้เลือดเราไม่มีการเติบโตของไขมัน พอเยื่อไขมันไม่สามารถเติบโตได้ เส้นเลือดเราจะสะอาดใสอยู่ตลอดเวลา ไม่มีตะกอนตกค้างหรือมีไขมันมาเกาะผนังหลอดเลือด

วิธีที่ 5 อายุยืนยาวขึ้น 5 ปี ด้วยการเล่นกอล์ฟ

อาจ จะมีหลายคนที่เล่นกอล์ฟกันอยู่แล้ว แต่ยังไม่รู้ว่าทำไมเล่นกอล์ฟแล้วทำให้อายุเรายืนยาวขึ้นได้ นั่นเพราะการเล่นกอล์ฟทำให้เราเดินครับ เล่นกอล์ฟ 18 หลุม จะทำให้เราต้องเดินถึง 6-10 กม. เลยครับแล้วการเดินทำให้ร่างกายเราเผาผลาญแคลอรีได้ดี เป็นการออกกำลังกายแบบ Low intensity คือการออกกำลังกายแบบไม่หนัก แต่หัวใจเต้นเร็วและใช้ออกซิเจนเยอะมาก ซึ่งจะทำให้ร่างกายเราแข็งแรง แล้วการตีกอล์ฟทำให้เราไม่เบื่อที่จะออกกำลังกายด้วย

วิธีที่ 6 อายุยืนยาวขึ้น 6 ปี ด้วยการกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ

กินทุกๆ มื้อเลยนะครับให้เรื่องการกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพเป็นชีวิตประจำวัน ไม่ใช่วันนี้พิเศษ ฉันจะไปกินอาหารเพื่อสุขภาพ นานๆ กินทีแบบนั้นไม่ดีแน่ๆ แล้วมีการวิจัยจากฮอลแลนด์บอกว่า กินปลา เนื้อไม่ติดมัน น้ำมันมะกอก กระเทียม คาร์โบไฮเดรตที่ดีอย่างข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต เป็นประจำจะทำให้ไขมันในเลือดน้อยลง สุขภาพ ร่างกายดีขึ้น โรคมะเร็งกับเบาหวานก็จะเกิดได้ยากขึ้น แล้วถ้าไม่รู้ว่ามีอาหารอะไรอีกที่ดีต่อสุขภาพ ก็ดูจากสุขภาพดีนี้ก็ได้หาง่าย ไม่แพงด้วย

วิธีที่ 7 อายุยืนยาวขึ้น 7 ปี ด้วยการควบคุมน้ำหนัก

นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด ศึกษาพบว่า ถ้าคุณสามารถควบคุมน้ำหนักให้อยู่ตามเกณฑ์มาตรฐานได้โดยตลอด คุณอาจจะเพิ่มชีวิตได้ถึง 7 ปีเลย หรือหากตอนนี้ ใครกำลังน้ำหนักตัวเกินอยู่ก็รีบลดเลยครับ เพราะปล่อยให้น้ำหนักมากๆไม่ดี กระดูก และไขข้อต้องรับน้ำหนักเยอะมากก็จะมีปัญหาได้ แล้วก็เสี่ยงกับการเกิดโรคหลายโรคด้วย แต่ที่ต้อง ระวังด้วยคืออย่าดูแค่ตัวเลขของน้ำหนักเท่านั้น ให้ดูไขมันด้วย เพราะคนผอมหลายคนเหมือนกันที่น้ำหนักน้อยแต่ไขมันเยอะ นั่นก็สุขภาพไม่ดีได้ง่ายเหมือนกัน

วิธีที่ 8 อายุยืนยาวขึ้น 8 ปี ด้วยการหัวเราะบ่อยๆ

การที่เราหัวเราะ ฮอร์โมนคอร์ติโซน ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพจะหลั่งน้อยลง ทำให้เรามีความสุข ผ่อนคลายไม่เครียด เพราะสารเคมีที่ไม่ดีในร่างกายจะไม่หลั่งออกมาเลย แล้วจะมีสารเคมีดี เช่น เอ็นโดรฟิน อะดรีนาลีน หลั่งออกมาแทน ก็พยายามดูหนังตลก อยู่กับเพื่อนให้เยอะๆ นะครับ จะได้หัวเราะ แค่คุณหัวเราะวันละ 15นาที อาจจะทำให้คุณมีอายุยืนยาวขึ้นอีก 8 ปีเลยนะครับ

เป็นอย่างไรบ้างครับ ไม่อยากเลยใช่มั้ยที่เราจะเพิ่มอายุของเราให้เพิ่มขึ้นอีก 8 ปี ผมเชื่อว่าทุกคนสามารถทำได้ ยังงัยก็ลองนำไปปฏิบัติดูนะครับ

“สุขภาพดีๆ หาซื้อไม่ได้ ถ้าอยากได้ต้องทำเอง”

ขอขอบคุณบทความดีๆ จาก นิตยสารสุขภาพดี

Read More>>